วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Talk before mlm


ทำความรู้จัก mlm
                สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องการทำธุรกิจขายตรงหรือ mlm ซึ่งหลาย ๆ คน เข้าใจผิดนะครับว่า ธุรกิจ mlm เนี่ยเป็นธุรกิจที่หลอกลวงเป็นไปไม่ได้นะครับ หลาย ๆ คนมีความรู้สึกว่าถูกหลอกให้ไปสมัครนะครับ ถูกบังคับให้ไปสมัคร พอสมัครแล้ว ก็บังคับให้เราไปหารายชื่อมา พอหารายชื่อแสร็จแล้วก็บังคับให้เราไปสปอนเซอร์ เพื่อจะบอกว่าเราจะได้มีรายได้ บางคนทำให้ต้องเสียเพื่อน เสียพี่ เสียน้อง เสียคนที่เรารักไป เพราะคนที่ชักชวนน่ะเค้าไม่ได้ศึกษา ไม่ได้มีความรู้ นะครับ เรื่อง mlm อย่างจริงจัง สิ่งที่เค้าทำอย่างนี้ก็เกิดจากเค้าโดนแบบนี้ เค้าก็เลยต้องทำแบบนี้ ซึ่งก็จะเป็นการถ่ายทอดพฤติกรรมต่อ ๆ กันไปนะครับ แต่ตอนนี้แล้วทำยังไงล่ะ ทำ mlm แล้วมันดียังไง นะครับ แล้วมันเป็นไปได้มั้ย แล้วทุกคนทำได้จริงเหรอ ทุชนชั้นทำได้จริงหรือ ปล่าว  คนพิกลพิการ หูบอด ตาหนวกทำได้จริงเหรอ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นคำถามที่อยู่ในใจของทุกคน ผมก็เป็นคนนึงนะครับที่เคยประสบปัญหาเดียวกับทุก ๆ ท่าน แต่เนื่องจากผม รู้ดีว่าธุรกิจเราต้องศึกษา เราต้องมีความรู้ในสิ่งที่เราจะทำ ไม่ใช่ใครมาชวนแล้วก็กระโจนใส่เพื่อเอารายได้มาล่อ โดยที่ปกปิดในส่วนของเราจะต้องทำอะไรบ้าง บางคนบอกว่าไม่เป็นไรสมัครไว้ก่อน แล้วค่อยทำทีหลังก็ได้ ซึ่งคนส่วนมากร้อยละแปดสิบเปอร์เซ็นต์ สมัครด้วยความเกรงใจเพราะอาจจะเป็นพี่ เป็นญาติ เป็นน้อง เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นคนที่เราเคารพรักนับถือ แต่ถามว่า เราสมัครเพื่อตัดความรำคาญแค่นั้นหรือ ก็มีคนอีกกลุ่มนึงเมื่อสมัครแล้วก็โดนบังคับ แต่ในที่สุดมันก็ประสบความสำเร็จได้ แต่ถามว่าเค้าจะบอบช้ำในด้านจิตใจมาก เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าเราเริ่มคิดถึงวิธีเริ่มต้นที่ความสบายใจ เริ่มต้นในวิธีที่ถูกต้อง ผมอยากจะถามว่า ทุกคนอยากจะทำมั้ยครับ ถ้าเราเดินไปบอกใคร บอกว่า เนี่ยนะจะทำ mlm นะ บอกด้วยความสง่าผ่าเผย บอกด้วยความบริสุทธิ์ใจและก็บอกเค้าด้วยว่า สิ่งที่เค้าจะเจอเค้าจะเจอกับอะไร และค้าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง mlm เป็นสิ่งที่น่าเป็นอย่างที่คิด นะครับ
                                                                                               
                                                                                                              

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กฏของคนรวย

ลักษณะนิสัยทั้ง 8 ข้อจากนี้ไป เป็นเหมือนกฎขั้นพื้นฐานที่เศรษฐีเงินล้านส่วนใหญ่ทั่วโลกยึดถือและปฏิบัติ เพื่อสร้างรายได้
1.หาเงินไว้ลงทุน..ไม่ใช่เพื่อใช้จ่าย
ใครก็ตามที่มุ่งมั่นและตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะร่ำรวยเงินทอง เพราะคนที่หาเงินได้มาก ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นเจ้าของคำว่า
เศรษฐี
2.มีแผนและทำตามแผน
เศรษฐีเงินล้านที่รวยได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่ได้ร่ำรวยเพราะความบังเอิญ ส่วนหนึ่งนั่นเพราะพวกเขามีนิสัยที่มีแผนและลงมือปฏิบัติตามแผน ซึ่งนั่นเป็นแรงผลักดันที่ช่วยพวกเขาให้เดินสู่ความรวย
3.ทำงานหาเงินให้มากขึ้น
ความหมายข้อนี้ดูเหมือนชัดเจน เพราะกลุ่มคนมั่งคั่งมักจะพากันแสวงหาหนทาง ที่จะสร้างหรือหารายได้ให้ไหลมาเทมาอย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีวันหยุด ด้วยการเพิ่มจำนวนเงิน ให้ทำงานออกดอกออกผลให้พวกเขาได้มากขึ้น
4.เข้าใจฐานะการเงินของตัวเอง
กลุ่มคนที่มีความมั่งคั่งต่างตื่นตัวกับการรับรู้รายได้ในบัญชีส่วนตัว และรู้ว่าการไหลเวียนของเงินที่ไหลเข้าออกในบัญชีมีเท่าไร ตรงนี้จะเห็นได้ชัดว่าต่างจากคนที่ยังไม่ได้เป็นเศรษฐี ที่มักจะไม่ค่อยสนใจและใส่ใจในฐานะการเงินของตัวเองซักเท่าไร
5.กล้ารับความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
การเป็นผู้กล้ารับความเสี่ยง เป็นสิ่งต้องทำเพื่อเพิ่มความรวยให้ตัวเอง หากไม่เข้าไปฉวยโอกาสบางครั้ง เงินที่มีอยู่จะไม่มีโอกาสงอกเงย แต่เหนืออื่นใด ต้องเป็นความเสี่ยงที่คุณรับได้
6.มีความอดทน&สติซ่อนอยู่ในการลงทุน
สังเกตมั้ยว่าพวกเศรษฐีเงินล้านที่ร่ำรวยจากสองมือสองขากับหนึ่งสมองของตัวเอง ไม่ได้กลายเป็นเศรษฐีเพียงชั่วข้ามคืน แต่เศรษฐีเหล่านี้เข้าใจถึงพลังแห่งดอกเบี้ยทบต้น และความพยายามลงทุนอย่างต่อเนื่องไม่หยุด เพื่อให้ได้ความร่ำรวยเป็นรางวัลตอบแทน
7.ได้ทีมที่ยอดเยี่ยม
กลุ่มคนร่ำรวยยังคงความมั่งคั่งของตัวเองไว้ได้ ด้วยผู้คนแวดล้อมซึ่งเป็นที่ปรึกษาการเงินและกฎหมาย ซึ่งล้วนมีฝีมือเป็นเลิศในแวดวงอาชีพนั้นๆ นั่นเป็นประเด็นที่เราเห็นได้ว่าบรรดาเศรษฐีเงินล้านมักไม่เดินหน้าสร้างความร่ำรวยโดยลำพัง
8.รับฟัง..กลั่นกรอง...นำไปใช้
นิสัยอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้คุณเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ด้วยความสามารถของตัวเอง คือการแสวงหาคำแนะนำจากที่ปรึกษาเชื่อถือไว้ใจได้ เศรษฐีเหล่านี้รับฟังด้วยความมุ่งมั่นมีใจจดจ่อ จากนั้นพวกเขาก็สามารถนำไปปฏิบัติและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง เพื่อพยายามสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แชร์ลูกโซ่

ขอให้ทุกท่านอย่าหลงเชื่อการให้ผลประโยชน์เกินจริง

วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คน3จำพวก

โลกนี้มีคนอยู่ 3 จำพวก [จริงเหรอ]
 
จำพวกแรก
        คนถนัดป้อนยาพิษ
          คนเหล่านี้ชอบและมักจะทำให้ทุกคนท้อถอย 
             ทำลายความคิดสร้างสรรค์ของคุณ 
             และบอกว่ามีอะไรบ้างที่คุณทำไม่ได้
 
จำพวกสอง
      คนตัดหญ้า
        :   คนเหล่านี้เป็นคนที่มีความตั้งใจดี 
            แต่คิดถึงเฉพาะตัวเอง 
            ซึ่งมักใส่ใจแค่ความต้องการของตน
            พวกเขาตัดเฉพาะหญ้าในสนามของตนเอง 
            และไม่เคยทิ้งสนามของตนมาช่วยตัดหญ้าให้กับคนอื่นเลย
 
จำพวกสาม
      คนสร้างเสริมชีวิต
        คนเหล่านี้เป็นคนที่ยื่นมือมาช่วยให้ชีวิตผู้อื่นมีคุณค่าขึ้น 
          มีกำลังใจเพิ่มขึ้นและให้แรงดลใจแก่ผู้อื่น 
 
วอลต์ ดิสนีย์.  
  
          ฉันอาจจะเป็นคนทั้ง 3 จำพวก  แต่ฉันจะพยายามอย่างยิ่งที่ก้าวผ่าน สอง จำพวกแรก  และฉันจะก้าวสู้จำพวกที่สามอย่างมั่นคง
 
         เมื่อเด็กชายอายุ 6 ขวบคนหนึ่ง  เล่นเกมคอมพิวเตอร์เพื่อฝึกทักษะการสังเกตด้วยการเลือกจับคู่ภาพที่เหมือนกันจากภาพต่าง ๆ แม้จะดูง่ายแสนง่ายและไม่มีอะไรน่าสนุก  แต่เด็กน้อยก็เล่นเกมนั้นอยู่ซ้ำ ๆ บ่อยครั้งไม่รู้จักเบื่อ 
                  เมื่อพ่อถามว่า    ทำไมลูกถึงชอบเล่มเกมนี้เหลือเกิน ?  
                  เด็กคนนั้นตอบว่า   ก็เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์พูดชมผม 
        คำชมที่ว่า  คือ 
                       เก่งมากครับ 
                       ยอดเยี่ยมมากครับ 
                         ไม่เป็นไรครับ ลองเล่นใหม่  
        ทุกครั้งที่เด็กน้อยเลือกจับคู่ภาพเหมือนกันได้ถูกต้อง เมื่อนั้นจะมีคำพูดให้กำลังใจที่เด็กน้อยต้องการนั่นเอง  และนั่นอาจเป็นคำพูดสั้น ๆ ที่เค้าโหยหามานานจากคนข้างกาย  ไม่เพียงแค่เด็กน้อยเท่านั้น  อาจจะเป็นทั้งเพื่อน  แฟน  คู่รัก  คนแก่เฒ่า  เจ้า่นาย  ลูกน้อง  ใคร ๆ ก็ย่อมต้องการกำลังใจที่เรามักมองข้ามไป
 
  
 
 พูดกันดีดีก็ได้ ..... ไม่เห็นต้องด่า ..... เสียใจน่ะเงี่ย .... ชมบ้างได้มั๊ยย
อยากได้คำชมและอยากมีคนให้กำลังใจ
โหย....หา....มากเลยรู้มั๊ย    
        ไม่ว่าใครก็ต้องการ  กำลังใจ  เพื่อยืนหยัดต่อสู้กับนานาอุปสรรค 
         กำลังใจอาจมองเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
         แต่จริง ๆ แล้ว  ความปรารถนาดีที่ซ่อนอยู่ในถ้อยคำ
         กลับมีค่าเหลือมากมาย..
         เพียงแค่ถ้อยคำสั้น ๆ ก็สร้างพลังในหัวใจของผู้ฟังได้มหาศาล
 
                  ฉันขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ....
                 ฉันเองก็ต้องการกำลังใจเหมือนกัน 
                 และคุณก็ต้องการกำลังใจเช่นกัน
 
          สิ่งเหล่านี้มาได้การอ่านหนังสือเล่มหนึ่งของ
John C. Maxwell :  Encouragement  CHANGES EVERYTHING Bless and Be Blessed


 ถ้าเราสักแต่อ่าน เก็บงำความรู้  กำลังใจ  แง่คิดดี ๆ ไว้คนเดียว


 ฉันก็คงจะก้าวไม่พ้นคนสองจำพวกแรก

ข้อควรพิจรณาถ้าคุณเป็นผู้นำ

สวัสดีครับ  วันนี้เรามาพูดถึงการเป็นผู้นำทางด้านต่างๆๆของชีวิต  ผู้นำที่ดีก็ต้องการผู้ตามที่ดีแล้วผู้นำที่ดีก็ต้องเป็นผู้รับฟังที่ดี รับฟังหรือให้ข้อมูล เสียสละประโยชน์ที่ตัวเองจะได้รับกับคนอื่น
มองคนอื่นเหมื่อนอย่างที่เราเคยเป็น คำว่าผู้นำนั้นต้องผ่านการขัดเกลา ด้วยความรู้เชิงวิชาการ ทางด้านศาสนา ทางด้านประสพการณ์  ไม่ว่าจะล้มเหลว  หรือจะประสพผลสำเร็จ
แล้วนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สอดคล้องกันกับคำพูดการกระทำยามเมื่อเกิดปัญหา ที่สำคัญไม่มีข้ออ้างใดๆๆที่ไปโทษคนอื่นเพราะผู้นำย่อมยอมรับในสิ่งที่ผิดพลาดได้แล้วนำมาแก้ไขเป็น
คนส่วนมากมักโทษ สิ่งที่อยู่นอกตัวเสมอหากเราหัดมองดูตัวเองแล้ววิเคราะห์ดูตัวเองก็จะเป็นการพัณนาไปอีกขั้นและจะทำไห้ผู้ที่อยู่ในความดูแลเราเชื่อมั่นในตัวเรา
ความยุติธรรม หลายๆคนมองว่าความยุติธรรมมีหรือเปล่าแล้วอยู่ตรงไหน  คำตอบคือ  ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน มันไม่มีข้อสรุป แต่เรามาวิเคราะห์กันดูว่า  มันมีปัจจัยอะไรบ้าง
1..อยู่ที่ความพอใจทั้งสองฝ่ายทั้งผู้เสียประโยชน์และผู้ได้ประโยชน์
2..อยู่ที่ว่าเรากระทำลงไปแล้วสบายใจหรือเปล่า ไม่ตะขิตตะขวงใจว่าสิ่งที่ตัดสินใจไปนั้นผิดหรือไม่
3..ให้ความสำคัญทั้งสองฝ่าย